วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558

(2014) ปราสาทชิยอง (Château de Chillon) 3/1/14

เที่ยว ปราสาทชิยอง Château de Chillon หรือ Chillon Castle

วันนี้ผมสะพายเป้เดินทางคนเดียว ไม่ลืมของสำคัญต่างๆ Passport ,Swiss Pass ,กระเป๋าเงิน และที่สำคัญ กล้องถ่ายรูป เดินทางโดยรถไฟ ออกจาก BERN เวลา 10:06 ผ่านเมืองโลซาน (Lausanne) ต่อไปที่เมือง Montreux (มองโทร์) เป็นเมืองที่ใกล้เมือง Vevey 



เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองเล็กๆแสนน่ารักที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ทะเลสาบแสนสวยที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก 
ออกจากชานชลา  เดินมาที่ Bus Station โดยขึ้นรถเมล์สาย 201 ไปลงที่ป้าย "Chllon" ( ประมาณ 9 ป้าย)



พอถึงป้าย Chillon เดินลงที่ป้ายนี้ (คนขับรถเมล์รู้อยู่แล้วเพราะนักท่องเที่ยวลงเยอะ) พอลงมาปุ๊บ จะเห็นปราสาทเด่น เป็นสง่ามาก  เป็นวิวที่สวยงามมาก เพราะด้านหลังเป็ฯทะเลสาบ และ หุบเขา เหมือนภายในฝันเลยครับ

สวยงามเหมือนนิยายกาตูนย์ตอนเด็กๆเลยครับ
นาฬิกาบนยอดหอคอยปราสาท


มองผ่านปราสาทไปจะเป็นวิวทะเลสาบและหุบเขา

“ปราสาทชิลยอง” (Castle of Chillon) หรือในภาคภาษาฝรั่งเศสคือ “ชาโต เดอ ชิลยอง” (Château de Chillon) ยืนสงบนิ่งอยู่บนแนวก้อนหินที่ล้อมรอบด้วยน้ำมานานกว่า 800 ปี นับเป็นปราสาทยุคกลางของยุโรปที่มีสภาพดีที่สุด
       
       ฐานปราสาทที่มีหินก้อนใหญ่รองรับอยู่นั้น เชื่อว่าสร้างมาตั้งแต่ยุคทองสัมฤทธิ์ (Bronze Age) ซึ่งในยุโรปกลางตรงกับช่วงปี 1800-1600 ก่อนคริสตศักราช ต่อมาถูกชาวโรมันครอบครอง จากหลักฐานเสาหินแบบโกธิกในห้องใต้ดิน จนกระทั่งปรากฎหลักฐานแน่ชัดว่าถูกต่อเติมสร้างเป็นปราสาทขนาดใหญ่ในช่วงศตวรรษที่ 11–13 เป็นสมบัติของเคานต์ซาวอย (Counts of Savoy) ขณะนั้นปกครองทางตอนเหนือของอิตาลีและกินพื้นที่เข้ามาทางตอนใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ในปัจจุบัน 

เดิมทีชิลยองถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นด่านเก็บค่าผ่านทางระหว่างเทือกเขาแอลป์ที่รู้จักกันดีว่า la route d'Italie หรือถนนสู่อิตาลีนั่นเอง ด้านหน้าปราสาทที่ติดถนนเป็นป้อมปราการมีหอคอย 3 ยอดห่างออกมาจากฝั่งเชื่อว่าเป็นที่พักของท่านเคานต์แห่งซาวอย ส่วนอีกด้านหันหน้าเข้าหาทะเลสาบ ซึ่งเงียบสงบร่มเย็นคาดว่าน่าจะเป็นที่ประทับของเจ้าชาย และฝั่งด้านติดทะเลสาบนั้นยากแก่การลอบเข้าโจมตีของศัตรู


      
 มาถึงก็เดินข้ามสะพานไม้ หน้าปราสาทเพื่อเข้าไปในตัวปราสาทมีด่านเก็บเงินค่าเข้าอัตราตามภาพนะครับ แต่ถ้ามี Swiss Pass ก็แค่ยื่น Swiss pass เท่านั้น ไม่ต้องเสียเงิน และทางเจ้าหน้าที่จะให้คู่มือเดินชมปราสาทมา 1 แผ่่น


ราคาค่าตั๋วเข้าชม
คู่มือการเดินเที่ยวในปราสาท




ได้รับมาแล้วก็นั่งพักข้างๆร้าน Shop ซะหน่อย เพื่อเปิด โบชัวร์ศึกษาวิธีเดินเที่ยวเพราะปราสาทใหญ่มาก แต่ไม่ต้องกลัวนะครับ ในคู่มืออธิบายการเดินเป็น "Number" 1-46 " โดยเดินตามลูกศรและเลขไปเรื่อยๆ มีเลขติดตลอดทุกห้องครับ

แผนผังปราสาทชีลอง

เริ่มเข้าห้องแรก เป็น Model ในห้อง Castle Model เพื่อดูแบบจำลองปราสาทแบบเหมือนของจริงแป๊ะ

       เข้าห้องแรกเป็นคูกเก่าที่ใช้จองจำนักโทษ ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นคุก แต่ที่แปลกๆคือ พอเดินเข้ามาปุ๊บ เย็นยะเยือกแถมขนลุกตลอดทางที่เดินเลย จนมาอ่านประวัติเลยถึงบางอ้อ ในนี้มีทั้งเครื่องจองจำ ,โซ่ตรวน ,ที่แขวนคอ ตอนแรกถ่ายรูปไว้หมดแล้ว แต่ลบออก ไม่อยากเอามาลง (กลัวเจอภาพติดวิญญาณ)

       ในประวัติคุกใต้ดินของชิลยองมีร่องรอยบุคคลสำคัญของโลกประทับไว้...เขาคือ “ลอร์ด ไบรอน” กวีและนักวิจารณ์ชาวอังกฤษ สัญลักษณ์แห่งความเพ้อฝัน และการแสวงหาเสรีภาพของยุคโรแมนติก...ถ้ายังนึกไม่ออก ลองนึกถึง “ดอน ฮวน” (Don Juan) ชายสเปนที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของหนุ่มเจ้าชู้ก็ด้วยฝีมือของลอร์ด ไบรอนผู้นี้
       
       ต้นศตวรรษที่ 19 ขณะที่ยุคโรแมนติกกำลังเฟื่องฟู มีกวีหลายคนได้เยี่ยมเยียนปราสาทชิลยองแห่งนี้ โดยแต่ละคนกลับออกไปพรรณนาเป็นทั้งข้อเขียนและบทกวีต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรุสโซ (Jean-Jacques Rousseau), เชลลีย์ (Percy Bysshe Shelley), ฮิวโก (Vigtor Hugo), ดูมาส (Alexandre Dumas), ชาร์ล ดิสเกนส์ (Charles Dickens) และแน่นอนว่ารวมถึงลอร์ดไบรอน ที่สลักชื่อของเขาเองลงบนเสาต้นที่ 3 ในคุกส่วนที่เคยขังฟรังซัวส์ โบนิวาร์ด (François Bonivard) 
   

เริ่มเดินดูในปราสาทตามห้อง ถ่ายรูปมาเยอะเลยครับ เอาเป็นว่าไล่ดูไปเรื่อยๆครับ

ห้องรัปประทานอาหาร
เตาครัว
ห้องช่างทำเฟอนิเจอร์ประจำปราสาท
เฟอนิเจอร์ ตู้ โต๊ะ หีบ สมัยโบราณ
ห้องนอน

ห้องประชุม
ห้องอาบน้ำ
เซลฟี่ซะหน่อย
ชุดนักรบสมัยโบราณ

ห้องทำอาหาร มีเครื่องเทศ ข้าว เยอะแยะ


























ใช้เวลาเดินดูห้องในปราสาททุกห้อง ใช้เวลาประมาณ 1:30-2 ชัวโมง (เหนื่อย โฮกๆ)
เลยเดินออกมาถ่ายรูป หน้าปราสาท แดดกำลังดีครับ

มีสะพานไม้ ทอดออกไปที่ทะเลสาบ เดินไปถ่ายรูปซะหน่อย แต่หนาวมากๆครับ 





เดินรอบปราสาท เริ่มหนาวและเหนื่อย กลับดีกว่า เดินออกมาจากปราสาทและกลับที่พัก อีกประมาณ 2 ชัวโมง  เหนื่อยแต่ชอบๆครับ สวยมากครับ ปราสาทหลังนี้ 
หากใครได้มาเที่ยวสวิตเซอแลนต์ อย่าลืมมาเที่ยวที่นี้ให้ได้นะครับ

ขอบคุณข้อมลการเที่ยว และ พาเที่ยวสวิตเซอแลนด์แบบส่วนตัว  www.SwissToursByTe.com ครับ