เตรียมตัวก่อนเดินทางไปเที่ยวยุโรป

เตรียมตัวก่อนเดินทางไปเที่ยวกันก่อนว่าต้องทำอะไรบ้างเนอะ

**อันดับแรกวางแผนก่อนว่าจะไปเที่ยวประเทศไหนบ้าง เช่น  
Switzerland --> German --> Austrial --> Natherland -->ITALY เป็นต้น 

1) วันลาสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว (โดยเฉพาะหนุ่ม สาว Office)

อันดับแรก แน่นอนการเดินทางไปต่างประเทศ ของผม ซึ่งเป็นหนุ่ม Office  เรื่องสำคัญที่สุดคือการ "วันลาพักร้อน" ( Vacation Leave ) เพราะการเดินทางไปเที่ยวต่งประเทศไกลๆ โดยเฉพาะยุโรป เพราะค่าตั๋วเครื่องบินมีราคาสูง โดยเฉพาะช่วง High Season ( เดือนตุลาคม ถึง กุมภาพันธ์ ของทุกปี) ,
ซึ่งหากเสียค่าตั๋วเครื่องบินไปราคาสูงแล้ว แต่มีวันลาได้น้อย ก็เท่ากับการเดินทางไปครั้งนั้นไม่คุ้มค่าเลยที่เดียวคับ ( ไปเที่ยวยุโรป ควรมีอย่างน้อย 9-10 วันเป็นอย่างน้อย) เพราะ เวลาเดินทางขอไปก็ 14-15 ชัวโมง ,กลับอีก 14-15 ชัวโมง และเมื่อไปถึงก็ควรมีเวลาพักผ่อน เพราะเหนื่อย จากการเดินทางและการเปลี่ยนของเวลา (Jet Lag) ซัก 8 ชัวโมงก่อนออกท่องเที่ยว (โดยเฉพาะชาวไทยที่มาเที่ยวในช่วงหน้าหนาว ,ร่างกายปรับตัวไม่ทัน อาจจะเป็นไข้ได้ ซึ่งหากเป็นไข้ ทริปนั้นจะหมดสนุกไปทันที !!)
** วิธีที่ผมทำคือวางแผนการเที่ยวว่าจะไปปีนั้นกี่วัน ที่แน่นอน เช่น ปีนี้ตั้งใจจะมาซัก 20 วัน **
1.1) หาช่วงวันหยุดราชการเยอะๆ เพื่อให้ได้วันลาต่อเนื่องเยอะ เช่น ปีใหม่ ,สงกรานต์ ,ช่วงหยุดวันพ่อ 
1.2) เก็บวันลาพักร้อนทั้งปีไว้เพื่อใช้ลาในช่วงเดินทาง (อันนี้ต้องอดทนเป็นพิเศษ)
1.3) ผมเลือกเดินทางช่วงปีใหม่ เพื่อใช้วันลาคาบเกี่ยวระหว่างสิ้นปี และ ต้นปี เช่น วันลาปี 2014 มี 7 วัน + วันลาปี 2015 มี 9 วัน รวมกับวันหยุดช่วงปีใหม่อีก และเสาร์-อาทิตย์อีก (ปี 2014-2015 ได้หยุดยาวรวมเสาร์อาทิตย์ถึง 5 วัน) และเมื่อนับไปรวมกับเสาร์-อาทิตย์ ก่อนและหลังปีใหม่อีก ก็ได้วันหยุดเินทางท่องเที่ยว สบายๆ 20 วัน อิอิ
1.4) ข้อ 1.3 ควรปรึกษาหัวหน้างานก่อน และ รีบจัดการงานทั้งหมดให้เรียบร้อยเพราะเรารู้ตัวแล้วว่าจะไม่อยู่ และที่สำคัญ หากลายาว ควรจัดการหาวิธีให้หัวหน้า หรือ เพื่อนร่วมงาน สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน (แต่อาจไม่ต้องตลอดเวลา เพราะเราไปเที่ยว เช่นอาจเป็นวันละครั้ง โดยแจ้งเป็นช่วงเวลาคราวๆไว้) โดยผมเลือกแจ้งกับที่ทำงานไว้ให้ติดต่อ ผ่าน E-Mail และ LINE และผมจะมาตอบทุกวันประมาณ เที่ยงคืนประเทศไทย (ที่ยุโรปก็ประมาณ 6 โมงเย็น ซึ่งประมาณว่าเป็นเวลาที่เราเข้าที่พัก (ตอนนี้ทุกโรงแรมมี WIFI ให้เล่น อยู่แล้ว) 

2) ประเมินค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ทั้งทริป (อันนี้สำคัญมาก)
*** ปฎิญาณของผมคือ --> ต้องเที่ยวด้วยเงินเก็บและมีเงินเท่านั้น ,ไม่เที่ยวแบบ เที่ยวก่อนผ่อนที่หลัง ,0% 6เดือน หรือ กลับมาแล้วต้องมาตามใช้หนี้[บัตรเครดิตทั้งปี เพราะหากเป็นแบบนั้น เวลากลับมาแล้ว การเที่ยวทริปนั้นจะมีความทรงจำที่ไม่สุขทั้ง 100% ****
- เตรียมทำบัตรเครดิต หรือหากมีแล้วความสำรองเงินในบัตรเครดิตให้ได้มากสุด
- หากติด เครดิตบูโร่ หรือทำบัตรเครดิตไม่ได้ --> แนะนำให้ทำบัตร"เดบิต" ที่เป็น ตรา VISA หรือ Master Card 
- ข้อสุดท้าย ---> เก็บเงินๆๆครับ  การประเมินค่าใช้จ่ายที่ควรมีเวลาไปเที่ยว ให้ตีคร่าวๆว่า วันละประมาณ 5,000 บาท เช่น หากไป 10 วัน ก็ควรมีเงินประมาณ 5,000 x 10 = 50,000 บาท (** ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับช่วงเดินทางว่า Low หรือ High Season + ค่าประกันการเดินทาง + ค่าขอ VISA +ค่าเดินทางไปที่ๆแพงๆแปลกๆเช่นค่าขึ้นเขาสูงๆ + ค่าช๊อปปิ้ง) ซึ่งราคานี้เป็นการเที่ยวแบบ ขึ้นรถสาธารณะ และพักแบบโรงแรมไม่แพง หรือ Hostel 
ตัวอย่างที่ผมไปทริปปีใหม่ 2014 นี้ 20 วัน ก็เก็บเงินไว้ประมาณ 
- ค่าตั๋วเครื่องบิน = 36,000 บาท ( Transit) 
- ค่า VISA เชงเก้น + ประกัน = 5,000 บาท
- ค่าใช้จ่ายเดินทาท่องเที่ยว 20 วัน = 5,000 x 20 = 100,000 บาท
- เผื่อช็อปปิ้งและฉุกเฉิน = 10,000 บาท
** รวมทั้งทริป ผมควรมีเงิน 35,000 + 5,000 +100,000 +10,000 = 150,000 บาท**
ปล. ผมประหยัดค่า ไกด์ที่ช่วยนำเที่ยว เพราะไปมาหลายรอบ และ มีไกด์ส่วนตัว (แฟนสาว) www.swisstoursbyte.com เป็นคนนำเที่ยวครับ อิอิ (ไม่เช่นนนั้น อาจหลง และเสียค่าใช้จ่ายมากกว่านี้เยอะมาก)
** สาเหตุที่เน้นให้ใช้บัตรเครดิต เพราะถ้าเราเดินทางหลายประเทศ "จะไม่มีปัญหาเรื่องการใช้ สกุลเงิน" เพราะทุกร้านในยุโรป จะรับบัตรเครดิตหมด เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ,ทำให้สะดวกสบาย ไม่ต้องแลกเงินยูโร ติดตัวไปด้วย ***

3) ไปขอ VISA เช้งเก้น กันเถอะ (ควรขอก่อนเดินทางอย่างน้อย 60 วัน)
** ขั้นตอนที่ทุกคนกังวล และ ยุ่งยากมาก --> แต่ถ้าเราเตรียมพร้อมก็ไม่ยุ่งยากและน่ากลัวอย่างที่คิดนะครับ **
ตอนนี้ทุกประเทศเข้าร่วม EU โดยใช้เงิน EURO และ คนที่เดินทางไปสามารถขอวีซ่าที่สามารถเดินทางได้ทั่วยุโรปเรียกว่า "วีซ่าเช้งเก้น" (Schengen Visa) "ยกเว้นประเทศอังกฤษ" ที่ยังไม่เข้าร่วม (จะไปอังกฤษต้องขอวีซ่าอังกฤษโดยเฉพาะ )
** ดังนั้นเราจึงสามารถไปขอวีซ่า ที่สถานฑูตประเทศใดในยุโรปก็ได้ แต่ที่ถูกต้อง "ควรเลือกไปขอวีซ่าเช้งเก้น กับสถานฑูต ที่ประเทศที่เราจะไปที่แรกในยุโรป และ อยู่นานๆจะเป็นผลดีต่อการพิจารณา อนุมัตวีซ่า**

Technic ที่ผมจะเลือกเดินทางไปเที่ยวที่ใดในยุโรปก่อน --> คือเลือกที่ในช่วงที่เราจะไปนั้นมีตั๋วเครื่องบินที่ไปลงประเทศนั้นราคาถูกที่สุด และ เดินทางระหว่างประเทศโดยใช้ รถไฟความเร็วสูงข้ามประเทศเอา และลองเปรียบเทียบราคา ค่าตั๋ว+รถไฟ ซึ่งจะได้ถูกกว่า, แถมยังได้เที่ยวเมืองที่เราไปลงเครื่องอีก
** ช่วงปีใหม่นี้ ผมเลือกไปที่อิตาลี (Milan) ก่อน แล้วเที่ยวที่อิตาลี ตามรอย A.C.Milan และนั้งรถไฟมาที่สวิสต่อ (ที่เหลือค่อยว่ากัน อิอิ) ** 
จึงเลือกตัดสินใจ ไปขอวีซ่าเช้งเก้นที่ "ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าประเทศอิตาลี
(http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/) ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าประเทศอิตาลี
ตึกสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 15 ยูนิต C สีลมคอมเพล็กซ์ ,191 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
( เปิดวัน จันทร์ - ศุกร์ 8:30 -16:00 หยุดวันหยุดราชการ) แต่ผมเลือกไปวันพฤหัส เพราะคนน้อยดี
เอกสารที่ต้องเตรียมไป
** จำได้ว่าตอนไปขอวีซ่าไปสวิส ครั้งแรก เจ้าหน้าที่บอกหลักการขอวีซ่าไว้ง่ายๆว่า**
1) "เอกสารแสดงว่าคุณไปแล้วกลับแน่ๆ" (ไม่หนีอยู่ประเทศเค้า)
--> หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัท ระบุวันลาชัดเจน ว่าไปวันไหน กลับวันไหน
--> หนังสือแสดงรายได้ที่อยู่ประเทศไทย (ว่าเราอยู่นี้รายได้ก็เยอะและมั่นคง คงไม่ไปลำบากตรากตรำอยู่ประเทศเค้าหรอก) ยิ่งเป็นบริษัทที่มั่นคง เงินเดือนดี หรือ เป็นข้าราชการ จะยิ่งง่าย
--> ผู้หญิง หากแต่งงานแล้ว ,มีสามี มีลูก ยิ่งดีควรยื่นเอกสารทะเบียนสมรส(แปลด้วย)ว่า ดิฉันมีลูก มีผัว ต้องกลับมาดูแล และคงไม่ไปหาสามีฝรั่งแน่นอน อิอิ
2) "เอกสารแสดงการเงินว่า ไปแล้วฉันมีเงินกิน เที่ยว แน่นอน ไม่เป็นภาระประเทศคุณ"
--> บัญชีธนาคารที่มีเงินเข้าอย่างสม่ำเสมอ และ มีเงินเหลือเยอะพอประมาณ (เท่ากับการประเมินค่าใช้จ่ายในข้อ 2)  สำเนาย้อนหลัง 6 เดือน พร้อม Bank Certifier (ขอธนาคาร เสีย 100 บาท)
--> หนังสือรับรองจากบริษัท ที่ระบุรายได้ทั้งปี (เงินเดือน + โบนัส)
-->ถ่ายเอกสารหน้าบัตรเครดิต VISA & Master Card และระบุวงเงินที่ได้รับ (และวงเงินที่ใช้ได้)
--> กรณีที่ไม่ได้จ่ายเงินเที่ยวเอง เช่น สามี หรือ ลูกที่พ่อแม่ออกค่าใช้จ่ายให้ --> ให้นำเอกสารการเงินของคนที่ออกค่าใช้จ่ายให้แนบ
-->กรณีมีเพื่อน,ญาติ ที่อยู่ยุโรป และเค้าชวนไปเที่ยวไปพักเอง --> ต้องขอเอกสารทางการเงินของญาติหรือคนรับรองที่อยู่ประเทศนั้นๆมาด้วยเพื่อแนบ
3) "ไปแล้ว ทำไรบ้าง ไปไหนบ้าง พักที่ไหน ไปยังไง ใช้เงินเท่าไหร่.." Program ท่องเที่ยว (อันนี้ยากหน่อย)
--> เอกสาร ตารางการท่องเที่ยว ไปไหนบ้าง เที่ยวที่ไหนบ้าง เวลาเท่าไหร่ ไปยังไง (รถบัส รถไฟ เดิน ยานอวกาศ etc) และ ประเมินค่าใช้จ่าย เช่นไปเที่ยวที่นี้ใช้เงินเท่าไหร่ ,พักโรงแรมอะไร ? ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ? อย่างละเอียด
--> ใบจองตั๋วเครื่องบิน ระบุวันไป กลับ ชัดเจน ที่ตรงกับจำนวนวันที่ขอวีซ่า และ จำนวนวันที่ลางาน
--> ใบจองโรงแรม และ ตัวรถไฟ (ถ้ามีกรณีเดินทางระหว่างประเทศ การจองผ่านเนต จะง่ายกว่า)
( *** ข้อนี้ผมไม่ต้องทำเพราะแฟนผมทำให้ เพราะเธอรู้ดี เลยง่ายหน่อย --> www.swisstoursbyte.com)

** เพียง 3 ข้อ นี้ คุณก็พร้อมจะไปลัลล้า ยุโรปได้แล้ว,,แค่นี้รอ วีซ่าผ่าน ก็เตรียมบิน เย้ๆๆ **
** ที่สำคัญหากไปหน้าหนาว อย่าลืมเสื้อกันหนาวหนาๆด้วยนะค๊าบ เพราะหนาวมากกกกกก**